วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

เปรียบเทียบ


ผ่านไปเกือบปีครับ

มุมใกล้เคียงกันเทียบให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่



                                                                                ก่อนทำ





                                                                          หลังทำ

ปลุูกแล้วจ้าาาา

28/8/2559

 เฝ้ารอมานานและแล้ววันนี้ก็มาถึง ฮ่าาา  ดีใจอย่างกะผลผลิตออกแล้วอย่างนั้นเชียวครับ
อย่างที่เคยเล่าว่างานเสร็จล่าช้าไปกว่าที่คิดร่วมเดือน  หลักๆก็จากปัญหาคนงานไม่พอครับ แต่สุดท้ายคนงานที่เหลืออยู่ก็อดทนทำกันจนเสร็จ และแล้ววันนี้ก็มาถึงครับ เริ่มปลูกแล้วจ้าาาาา









ลำบากมากมายครับ คนงานต้องขนต้นกล้ามาทีละ20กว่าต้นจากแปลงชำ ค่อยๆเดินไต่เขามาตามขั้นบันไดที่ได้ขุดไว้ กิ่งไม้และต้นไผ่ที่ระเกะระกะก็ต้องคอยหลบหลีกให้ดี แถมฝนที่ตกเป็นระยะๆยังทำให้ดินค่อนข้างลื่นก็ต้องระวังในการเดินเพิ่มขึ้นอีก









 
เหนื่อยก็พักครับ คงงานชายหนุ่มขนกล้าชุดนึง  อีกชุดชายแก่ขุดดินและผสมปุ๋ย ชุดสุดท้ายผู้หญิงก็ปลูก เร่งปลูกให้เสร็จทันก่อนฤดูฝนจะหมด









โรบัสต้าต้นแรกของในแปลงครับ ผมขอเจิม

โคตรหนอน

กำลังเดินดูคนงานจู่ๆก็รู้สึกว่ามีอะไรเกาะที่บนลำคอ แต่ก็ไม่กล้าเอามือปัดออก ให้คนงานช่วยดูคนงานเห็นก็เอากิ่งไม่เขี่ยและปัดออกให้ พอหล่นบนพื้นและเห็นตัวเท่านั้นแหละคับรู้สึกหน้าตึง ขนลุกขึ้นมาทันใด ความยาวเกือบเห็นจะได้ครับ บรึ๋ยยยยยย


90%แล้ว


18/8/2559
อัดกันกว่า2เดือนในที่สุดก็เสร็จครับ เหนื่อยเหลือหลายช่วงนี้ทั้งเก็บมังคุด ทั้งดูแลสวนแปลงอื่น ฝนหยุดตกเมื่อไหร่คนงานก็ต้องกรีดยางเพื่อรายได้หลักกันต่อ ทุกคนกรอบเต็มทีจนช่วงหลังๆคนงานเริ่มหายไปทีละคนๆ งานเลยเสร็จช้ากว่าที่คิดไปร่วมเดือน ตอนนี้ก็เหลือแค่เคลียร์กิ่งไม้ที่เกะกะบนขั้นบันได กำจัดหญ้าก็เริ่มปลูกแล้วล่ะครับ เย้ๆๆๆๆ



ภาพหลังถางต้นไผ่ออกทั้งหมด มุมนี้เห็นลานในซึ่งมีเรือนชำกล้ารอปลูกครับ ต้นกล้าทั้งกาแฟ ทั้งหมากมาประจำที่รอปลูกอยู่กว่า2เดือนแล้ว








 


อีก2ภาพก็เป็นอีกมุมครับ ตรงฝากนี้เจ้าของที่คนก่อนไม่ได้ปลูกยาง ก็เลยจะเห็นว่ามีต้นไม้เหลืออยู่หลายต้น ทั้งไม้ค้อซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มครับอันนี้ต้องเอาออกก่อนปลูกครับ ส่วนไม้ยืนต้นก็ช่างเขาอยู่ร่วมกันได้ครับ อุตสาห์อยู่ในแปลงมาหลายสิบปีก็ให้อยู่ด้วยกันต่อไปนี่แหละดีที่สุด


อาราบิก้าคาร์ติมอร์


เห็นกระแสในเน็ตกำลังมาครับ ส่งเสริมให้ปลูกกาแฟอาราบิก้าคาร์คิมอร์ในสวนยาง/ปาล์ม ทางภาคใต้ ก็เลยถือโอกาสไปเปิดโลกทัศน์ ไปศึกษาดูงาน  หลังจากพูดคุยกันแล้วผมสรุปว่าก็พอมีโอกาสสำเร็จน่ะครับผลผลิตที่ได้ข้อมูลก็โอเคไม่เลวมาก เหลือแค่ processing ให้ออกมาดีและเป็นที่ยอมรับ ซึ่งผมยังนึกไม่ออกว่าจะทำให้ออกมาดีสู้อาราบิก้าทางภาคเหนือได้อย่างไร อาจไม่คิดมากถึงขนาดเอาให้ชนะอาราบิก้าคุณภาพทางภาคเหนือ คั่วแก่ๆหน่อยแล้วชงเป็นกาแฟเย็นขายก็เป็นได้ ก็เอาใจช่วยเพื่อนร่วมวงการครับถ้าทำได้สำเร็จเกษตรกรท่านอื่นที่เพิ่งทดลองปลูกจะได้มีแนวทางในการพัฒนาต่อ อย่าให้เป็นแค่ราคาคุยสร้างความหวังและหลอกขายต้นกล้าเพียงพอ


รูปผลของคาร์ติมอร์ครับ ไปในช่วงเขากำลังออกผลพอดี








ทางไร่มีการเก็บเมล็ดของผลผลิตปีแรกมาทดลองคั่ว ทดลองพัฒนารสชาติอยู่เหมือนกัน 
เสียดายผมไม่ได้ชิม

วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2559

พันธุ์กาแฟที่เลือก



       ตัดมาพูดถึงพันธุ์กาแฟเสียหน่อยครับ ไอ้โรบัสต้าเนี๊ยะ!! เขามีนิสัยพิเศษคือเขาต้องผสมพันธุ์ข้ามต้นเท่านั้นครับ ทีนี้เกษตรกรส่วนใหญ่ยึดเอาสะดวกก็เอาเมล็ดมาเพาะและปลูก จากการขยายพันธุ์ด้วยวิธีนี้ไร่กาแฟของเกษตรกรโดยส่วนใหญ่ก็เลยมีสารพัดสายพันธุ์ในแปลงโดยที่เรามิรู้ตัว สาเหตุก็เพราะจากการกลายพันธุ์นั่นเอง    
 จริงๆปัจจุบันกรามวิชาการเกษตรก็ได้พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆที่มีผลผลิตค่อนข้างสูงแล้วเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อมาแจกให้กับเกษตรกรไปปลูก จากวิธีนี้เราจะได้พันธุ์ที่ค่อนข้างชัดเจนแน่นอน แต่กระนั้นพันธุ์ใหม่ๆที่ว่านี้ก็ยังมีข้อเสียอีกมากครับเช่นกิ่งเปราะหักง่าย เมล็ดมีขนาดเล็ก ขั้วเมล็ดค่อนข้างเหนียวจึงทำให้การเก็บเกี่ยวค่อนข้างยาก กลายเป็นว่าแม้มีข้อดีมากมายแต่สายพันธุ์พวกนี้กลับไม่ได้ความนิยมจากเกษตรกร  ผมเองคิดถึงเหตุผลพวกนี้จึงพยายามลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยการเลือกใช้พันธุ์พื้นเมืองที่ให้ผลผลิตดีและใช้เมล็ดจาดต้นแม่เพียงต้นเดียวเพื่อลดความหลายหลายสายพันธุ์ในแปลง  
          ไอ้คิดอ่ะมันง่ายครับแต่ไอ้การเลือกต้นพันธุ์ที่ดีนี่แหละที่มันยาก เพราะเราไม่เคยมีการคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีอย่างเป็นระบบกันเลย ก็ต้องดั้นด้นเสาะหากันอยู่นานครับ ขั้นตอนการคัดเลือกต้นพันธุ์นี้ผมปรึกษาท่านผู้รู้หลายท่านมาก ไปเที่ยวมาก็หลายไร่หลายสวนเพื่อเสาะหาต้นแม่พันธุ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะมีความสามารถหาได้ จนที่สุดได้ไร่ของพี่เกษตรท่านหนึ่งที่ได้รับการยอมรับว่าท่านทำเมล็ดกาแฟได้ดี ได้สวย ก็สวยและดีขนาดพ่อค้ามาจองซื้อและบวกราคาให้เพิ่มจากตลาดทุกปีแถมบริษัทแปรรูปกาแฟก็ได้มาขอเมล็ดพันธุ์ไปเพาะขยายและปรับปรุงพันธุ์กันต่อไปเสียด้วย 


 รูปเมล็ดกาแฟจากต้นที่คัดเลือกไว้ครับพอดีว่าเหลือจากการเพาะ  --- โดยจะเห็นว่าลักษณะเมล็ดจะค่อนข้างใหญ่และอ้วนป้อม คุณสมบัติอีกอย่างคือกิ่งจะเหนียวแต่ขั้วผลไม่เหนียวเก็บง่ายแต่กระนั้นเมื่อเขาสุกจัดถ้าโดนฝนมากผลก็จะไม่ร่วงง่าย คือถ้าร่วงง่ายก็เก็บไม่ทันครับ ต้นนี้บริษัทแปรรูปกาแฟได้ตามมาขอเมล็ดพันธุ์เพื่อเอาไปพัฒนาต่อเมื่อ2ปีที่แล้ว






พี่เพียบครับ เจ้าของไร่กาแฟเนื้อที่ถึง80ไร่ มีกาแฟมากกว่า1หมื่นต้น และได้คัดเลือกมา1ต้นเพื่อเอาเมล็ดมาเพาะขยายพันธุ์ให้กับผม   พี่เพียบมีประสบการณ์ทำไร่กาแฟมา33ปีเต็ม อพยพมาจากอิสานมาบุกเบิกทำไร่กาแฟตั้งกะยุคตื่นกาแฟหลายสิบปีที่แล้ว ลองผิดลองถูกมาสารพัด ให้แกเล่าเรื่องกาแฟแกจะเล่าได้อย่างสนุกและไม่มีหยุดแม้ว่าจริงๆจะเป็นคนค่อนข้างพูดน้อยก็ตาม ผมเองชวนพี่เพียบให้ลองมาทำโรบัสต้าคุณภาพด้วยกัน แต่แกส่ายหน้าและบอกว่ามันยุ่งยากเกินสำหรับแก แกไม่ได้มีอุดมการณ์จะทำของดีอร่อยๆให้คนกินอะไรอย่างนั้น เอาเวลาไปทำสวนทุเรียนดีกว่าเพราะราคาดีกว่าหลายสิบเท่าตัว ส่วนกาแฟเก็บเสร็จตากสีแห้งแล้วขายเลยแล้วกันง่ายดี ฮ่าาาา ก็จริงของแกครับ มองกันคนละมุมก็ไม่มีใครผิด แต่ก็เสียดายฝีมือของแกครับ
     

เริ่มถาง

28/6/2559

ขุดขั้นบันไดเกือบเสร็จแล้วครับเหลือแค่บางจุดที่ยังทำงานไม่ได้ ข้ามเลยล่ะกันครับค่อยเคลียร์และค่อยปลูกปีหน้า ในเมื่อข้ามจุดที่มีปัญหาได้ก็เริ่มถางล่ะครับงานนี้


 ต้นยางพาราที่ยังหลงเหลืออยู่ครับ เจ้าของสวนเจ้าเก่าซึ่งเป็นญาติผมปลูกทิ้งไว้กว่า9ปีที่แล้วแต่ไม่ได้ดูแล ก็ต้องโค่นทิ้งตามระเบียบครับ








เริ่มถางครับ ภาพมุมมต่างๆ  ---  หลักๆคือไม้ไผ่เมื่อเราถางเสร็จก็ต้องเก็บไม่ให้เกะกะทางเดินหรือกีดขวางการทำงาน พวกต้นไผ่และกิ่งไม้พวกนี้จะช่วยคลุมดินไปในตัว กว่า2ปีถึงจะเริ่มผุพังกลายเป็นอินทรีย์วัตถุให้ดินของเราอีกทาง  ขั้นตอนการถางคนงานผมบาดเจ็บไป3คน โดยไม้ไผ่ไหลมาแทงที่ขา อีกคนไม้ไผ่เด้งกลับไปตีหน้าดั้งแหก คนสุดท้ายโดนตีจนแขนเคล็ด เรียกว่ายากมากครับแต่ก็ยังลุยต่อได้ อึดซ่ะอย่าง เหนื่อยก็พัก พักเสร็จก็ลุย!!!

ถนนพัง



25/6/2559

จริงๆก็คิดอยู่แล้วล่ะครับว่าถนนคงจะทรุดหรือชำรุดบ้างหลังจากผ่านฤดูฝนไป ก็ค่อยซ่อมเล็กกันอีกรอบในปีหน้า  แต่ไม่นึกว่าจะไวขนาดนี้ครับโดนฝนหนักไปเดือนเดียวรู้เรื่องลยครับ  เฮ้ออออ!!เสียเงินอีกแล้ว

                                                                ดินสไลด์มาทับถนน




                                                      ไหล่ถนนเข้าแปลงยุบเนื่องจากดินยังไม่แน่น




                                               ถนนตรงจุดโค้งขึ้นแปลงข้างบ่อน้ำ




                                          ภาพมุมบน ถนนตรงจุดโค้งขึ้นแปลงข้างบ่อน้ำ

พืชเสริม



6/6/2559
ภาพกล้าหมากหลังจากย้ายมาพักในแปลงเพื่อเตรียมปลูก 

ไอ้นี่แหละครับที่เลือกมาเป็นพืชเสริมในไร่กาแฟ  ยังคิดต่อว่าเมื่อเขาอายุได้สัก3ปีจะปลูกไม้เลื้อยเช่นพลูหรือพริกไทมาเสริมอีกตัวโดยใช้ต้นหมากเป็นหลักให้เขาเลื้อย ก็เหมือนเดิมครับเพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อช่วยยึดหน้าดินและเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องราคาผลผลิตจากการผลิตดัวเดียว









ปักหลักแนวและขุดขั้นบันได

ลุยต่อเลยครับ
   
           ค่าแรงในปัจจุบันนี่แพงหูฉี่เลยครับก็ตัดสินใจอยู่นานว่าจะขุดขั้นบันไดดีไหม เพราะปกติเกษตรกรชาวบ้านๆทั่วไปก็จะข้ามขั้นตอนนี้ไปเพราะต้องการลดต้นทุนและลดความยุ่งยากในขั้นตอนการเตรียมแปลง แต่สุดท้ายผมเองตัดสินใจขุดขั้นบันไดเพื่อปลูกกาแฟบนขั้นบันไดที่ว่า เหตุผลเพราะมันจะง่ายต่อการเดินในแปลง ง่ายต่อการดูแลรักษาในขั้นตอนหลังจากนี้และสำคัญคือเป็นการอนุรักษ์หน้าดินไปในตัวด้วยครับ  สรุปได้ก็ลงมือทำครับ วางระยะปลูกไว้ที่ 3*4 เมตร ก็ค่อนข้างห่างหน่อยถ้าเปรียบเทียบกับการปลูกเชิงเดี่ยวตามที่วิชาการเขาแนะนำ ทั้งนี้เพราะผมวางแผนต่อว่าจะปลูกพืชอย่างอื่นเสริมเข้าไปด้วยเพื่อให้เขาเกื้อหนุนกันและยังเป็นการลดความเสี่ยงเรื่องราคาผลผลิตกาแฟด้วยอีกทาง



   1/6/2559     มอญ ลูกน้องชาวพม่าคู่คิด คู่ทำ กำลังตั้งใจขุดขั้นบันได ไม่ได้คนนี้นี่เหนื่อยอีกโขเลยครับ






ขุดไปบางจุดก็เจออุปสรรค - แปลงของผมเป็นสวนยางเก่า แต่ถูกทิ้งรกร้างมา9ปีเต็ม จนกลายเป็นป่าไผ่บางจุดก็มีไม้โตเร็วบางชนิดที่ขึ้นมาหลังจากถูกทิ้งรกร้างไว้หลายปี ที่เห็นในภาพคือต้นมะเดื่อปล้องครับ

เริ่มทำถนน

12/5/2559
   
      หลังจากเกิดดราม่าปัญหาสารพันจนเกือบจะไม่ได้ทำเสียแล้วกับไร่กาแฟแห่งนี้ เรื่องของเรื่องคือญาติอีกคนอยากได้ที่แปลงนี้ขึ้นมาเลยวางอุบายปิดถนนจนผมเข้ามาทำต่อไม่ได้ แต่สุดท้ายผมก็ฝ่ามาได้แบบเหนื่อยใจและเสียความรู้สึกมากๆครับ เอาเหอะไม่อยากจะคิดมากมายฝ่ามาได้ก็เริ่มทำกันเหอะครับ
   
      หลังจากหยุดยาวรถแบ้คโฮลก็ได้เข้าแปลงมาทำงานกันอีกรอบ ที่วางแผนไว้คือให้ตัดถนนเข้าแปลงและตัดถนนขึ้นสู่แปลงเพื่อเอื้อให้สามารถนำรถหรือเครื่องจักรเล็กๆเข้าสู่แปลงได้ง่ายขึ้น  ทัังนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคตเวลาขนส่งผลผลิตออกจากแปลงหรือขนส่งปัจจัยการผลิตต่างๆเข้าสู่แปลง  รถแบ้คโฮลเข้ามาเริ่มทำงานวันที่ 9/5/2559และใช้เวลากว่า3วันจนเป็นรูปร่างครับ



                                                             ลานแรก-วางแผนไว้ทำลานตาก








ถนนเข้าแปลง







ลานใน - วางแผนไว้ทำบ้านพัก






                                ถนนขึ้นแปลง(ชันมาก) ไว่ขนส่งผลผลิตหรือปัจจัยการผลิตในอนาคต







                 บ่อน้ำ - จะทดลองเก็บน้ำในฤดูฝนไว้ใช้ ใช้วิธีทำเขื่อนขวางทางน้ำไหลและขุดให้ลึกลงกว่าเดิเพื่อเพิ่มปรืมาตรในการกักเก็บน้ำ  ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลยังเหมือนกันครับ อยากทดลองยังไงค่อยมาอัพเดตอีกที